การทำธุรกิจออนไลน์และการติดต่อสื่อสารผ่านระบบออนไลน์เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในยุคนี้ อินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทจนแทบจะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันที่ขาดไม่ได้ แต่ก็มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งปัญหาด้านความปลอดภัย เช่น การแฮ็คข้อมูล การขโมยข้อมูลส่วนตัว หรือมัลแวร์ จึงเป็นเรื่องที่ต้องระวังมาก ด้วยเหตุนี้เทคโนโลยี SSL (Secure Socket Layer) จึงได้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ใช้งานบนอินเทอร์เน็ต
มารู้จักกับ SSL
SSL คืออะไร?
SSL หรือ Secure Socket Layer เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ในการเข้ารหัสข้อมูลเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสารบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ปัจจุบัน SSL ได้พัฒนาไปเป็น TLS (Transport Layer Security) ซึ่งเป็นมาตรฐานการเข้ารหัสที่ทันสมัยกว่า การใช้งาน SSL/TLS จะช่วยปกป้องข้อมูลของเราจากการถูกดักจับโดยแฮกเกอร์ ซึ่งข้อมูลที่ส่งผ่านระบบ SSL จะถูกเข้ารหัสอย่างซับซ้อน ทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีไม่สามารถอ่านหรือใช้ประโยชน์จากข้อมูลนั้นได้
SSL Certificate คืออะไร?
SSL Certificate หรือใบรับรอง SSL คือ ไฟล์ข้อมูลขนาดเล็กที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อยืนยันตัวตนของเว็บไซต์และเซิร์ฟเวอร์ โดยมีการผูกข้อมูลเข้ากับกุญแจดิจิทัล (Private Key) เพื่อให้การสื่อสารระหว่างผู้ใช้และเซิร์ฟเวอร์มีความปลอดภัยมากขึ้น เมื่อมีการติดตั้ง SSL Certificate บนเว็บไซต์ การเชื่อมต่อระหว่างเบราว์เซอร์ของผู้ใช้และเซิร์ฟเวอร์จะเกิดขึ้นผ่านโปรโตคอล HTTPS แทนที่จะเป็น HTTP แบบธรรมดา ทำให้ข้อมูลถูกเข้ารหัสก่อนส่งผ่านอินเทอร์เน็ต และเมื่อแฮกเกอร์พยายามดักจับข้อมูล ข้อมูลนั้นก็จะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถอ่านได้หากไม่มีคีย์ที่ถูกต้องในการถอดรหัส
ทำไมต้องใช้ SSL Certificate?
ปกป้องข้อมูลส่วนตัว
การใช้งาน SSL Certificate ช่วยให้ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน หรือข้อมูลบัตรเครดิต ที่ถูกส่งผ่านเว็บไซต์มีความปลอดภัยจากการถูกดักจับ ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเว็บไซต์ที่มีการทำธุรกรรมออนไลน์ เช่น เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ หรือระบบการจองออนไลน์ การเข้ารหัสข้อมูลทำให้แฮกเกอร์ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกส่งผ่านเว็บไซต์ได้ง่ายๆ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรม ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกมั่นใจในการใช้งานเว็บไซต์มากขึ้น
เพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์
การมี SSL Certificate ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของเราอีกด้วย เมื่อผู้ใช้เห็นว่าเว็บไซต์เรามีการติดตั้ง SSL และมีสัญลักษณ์รูปกุญแจล็อกอยู่ในแถบ URL พวกเขาจะรู้สึกปลอดภัยและมั่นใจในการเข้าใช้งานเว็บไซต์นั้น โดยเฉพาะสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการให้ผู้ใช้งานกรอกข้อมูลส่วนตัว การติดตั้ง SSL เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง
ปกป้องจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
SSL Certificate ยังมีการรับประกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นจากการที่ข้อมูลถูกโจมตีหรือถูกดักจับ โดยการรับประกันนี้จะขึ้นอยู่กับประเภทของ SSL Certificate ที่เลือกใช้ หากเกิดเหตุการณ์ที่ข้อมูลของลูกค้าถูกขโมยผ่านช่องทางที่มี SSL ป้องกัน เราสามารถแจ้งเคลมตามเงื่อนไขของใบรับรองที่ใช้งานอยู่ได้
ช่วยเพิ่มอันดับในเครื่องมือค้นหา (SEO)
เว็บไซต์ที่มีการติดตั้ง SSL ยังได้รับประโยชน์ในการจัดอันดับบนเครื่องมือค้นหาอย่าง Google อีกด้วย ปัจจุบัน Google ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของเว็บไซต์ และเว็บไซต์ที่มีการใช้ HTTPS จะได้รับคะแนน SEO ที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มโอกาสในการแสดงผลในอันดับที่ดีกว่าในผลการค้นหา
ประเภทของ SSL Certificate
Domain Validation SSL Certificate (DV)
DV เป็น SSL ที่มีการตรวจสอบเบื้องต้นเพียงแค่ตรวจสอบความเป็นเจ้าของโดเมน เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยพื้นฐาน เช่น บล็อกหรือเว็บไซต์ส่วนตัว การออกใบรับรองนี้ใช้เวลาไม่นานและกระบวนการค่อนข้างง่าย
Organization Validation SSL Certificate (OV)
สำหรับ SSL ประเภทนี้ จะมีการตรวจสอบองค์กรเพิ่มเติม โดยต้องมีการยืนยันตัวตนขององค์กรผ่านหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ใบรับรองนี้เหมาะสำหรับเว็บไซต์ธุรกิจที่ต้องการเพิ่มความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
Extended Validation SSL Certificate (EV)
ใบรับรองที่มีการตรวจสอบเข้มงวดที่สุด มีการตรวจสอบทั้งความเป็นเจ้าของโดเมนและข้อมูลเชิงลึกขององค์กร เช่น ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท ใบรับรอง EV มักถูกใช้โดยองค์กรขนาดใหญ่ เช่น ธนาคาร เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งาน
SSL เป็นเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยในการสื่อสารข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ด้วยการเข้ารหัสข้อมูลที่ส่งผ่านเว็บไซต์ SSL ช่วยปกป้องข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลสำคัญจากการถูกดักจับหรือโจมตีโดยแฮกเกอร์ นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์และมีผลดีต่อ SEO อีกด้วย ด้วยเหตุนี้ การติดตั้ง SSL Certificate บนเว็บไซต์ของเราจึงสำคัญ อย่าลืมติดตั้ง SSL ทุกครั้งที่ทำเว็บไซต์ด้วยนะ