PR

ปรากฏการณ์เอลนีโญ–ลานีญา 2025 ส่งผลต่อประเทศไทยอย่างไร

ในทุก ๆ ปี ประเทศไทยมักต้องเผชิญกับความแปรปรวนของสภาพอากาศที่เกิดจากปรากฏการณ์ระดับโลกที่เรียกว่า เอลนีโญ และ ลานีญา หลายคนอาจคุ้นชื่อมาบ้าง แต่ยังไม่แน่ใจว่าคืออะไร และมีผลต่อชีวิตเรามากน้อยแค่ไหน โดยเฉพาะในปี 2025 ที่นักวิชาการและหน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาออกมาเตือนว่า สัญญาณของสองปรากฏการณ์นี้ยังคงมีความรุนแรงและอาจกระทบทั้งภาคการเกษตร เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของคนไทย

เมื่อเราพูดถึงเอลนีโญและลานีญา สิ่งสำคัญคือการเข้าใจธรรมชาติของปรากฏการณ์เหล่านี้ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันออกและตะวันตก ซึ่งแม้จะอยู่ไกลจากเรา แต่ผลกระทบกลับข้ามทวีปมาถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างชัดเจน ทำให้เกิดทั้งภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง หรือในบางครั้งฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วม

เอลนีโญคืออะไร และทำไมถึงน่ากังวล

เอลนีโญเป็นปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลฝั่งตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกสูงกว่าค่ามาตรฐาน ส่งผลให้ความชื้นและเมฆฝนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลง ประเทศไทยจึงมักประสบภัยแล้ง ฝนตกน้อย และฤดูฝนสั้นกว่าปกติ ปี 2025 นี้มีการคาดการณ์ว่า เอลนีโญอาจยังคงแสดงอิทธิพลในบางช่วง ส่งผลให้เกษตรกรต้องเผชิญความเสี่ยงเรื่องปริมาณน้ำไม่เพียงพอในการเพาะปลูก โดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจหลักอย่างข้าวและอ้อยที่ต้องใช้น้ำมาก

นอกจากผลกระทบต่อภาคเกษตรแล้ว เอลนีโญยังทำให้อากาศร้อนจัดกว่าปกติ หลายพื้นที่ของไทยอาจเผชิญคลื่นความร้อนที่ยาวนานขึ้น ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ที่มีโรคประจำตัว อีกทั้งยังเพิ่มความต้องการใช้ไฟฟ้าในการทำความเย็น ทำให้ค่าใช้จ่ายครัวเรือนสูงขึ้นตามไปด้วย

ลานีญาคืออะไร และมีผลตรงข้ามกับเอลนีโญจริงหรือไม่

ในทางกลับกัน ลานีญาคือปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกฝั่งตะวันออกต่ำกว่าปกติ ส่งผลให้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทย มีความชื้นมากขึ้นและฝนตกมากกว่าค่าเฉลี่ย ดังนั้นปีที่มีลานีญา เรามักเจอฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่

ปี 2025 มีการคาดการณ์ว่าหลังจากอิทธิพลของเอลนีโญอ่อนตัวลง อาจเข้าสู่ภาวะลานีญาในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งนับว่าน่ากังวลไม่น้อย เพราะหมายความว่าประเทศไทยอาจเผชิญสภาพอากาศสุดขั้วทั้งร้อนแล้งในช่วงต้นปี และฝนตกหนักในช่วงปลายปี ผลลัพธ์คือการจัดการทรัพยากรน้ำยิ่งซับซ้อนขึ้น เกษตรกรอาจปลูกพืชได้ยากเพราะไม่สามารถคาดเดาฝนฟ้าได้แม่นยำเหมือนเดิม

 

ผลกระทบต่อประเทศไทยในปี 2025

เมื่อเอลนีโญและลานีญาสลับกันแสดงอิทธิพล สิ่งที่เห็นชัดคือสภาพอากาศที่แปรปรวนและสุดขั้ว ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อชีวิตคนไทยในหลายด้าน

ด้านการเกษตร ภัยแล้งในช่วงเอลนีโญทำให้ผลผลิตลดลง แต่เมื่อเข้าสู่ลานีญา ฝนตกมากเกินไปก็ทำให้พืชผลเสียหายหรือน้ำท่วมไร่นา เกษตรกรจึงต้องปรับตัวอย่างมากในการเลือกช่วงเวลาปลูกพืช

ด้านเศรษฐกิจ ราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มผันผวนตามผลผลิตที่ไม่แน่นอน นอกจากนี้ต้นทุนด้านพลังงานและการนำเข้าก็อาจเพิ่มขึ้นจากความต้องการใช้ไฟฟ้าและการขนส่งที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศ

ด้านสุขภาพ คลื่นความร้อนอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคลมแดด โรคหัวใจ และโรคทางเดินหายใจ ส่วนฝนตกชุกและน้ำท่วมก็เพิ่มความเสี่ยงโรคที่มากับน้ำ เช่น ไข้เลือดออกและโรคอุจจาระร่วง

ด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ความเสียหายจากภัยแล้งและน้ำท่วมซ้ำซากทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องย้ายถิ่นฐานชั่วคราว เกิดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตและสภาพจิตใจ อีกทั้งยังสร้างแรงกดดันต่อระบบการจัดการทรัพยากรของภาครัฐ

 

การปรับตัวและการรับมือของคนไทย

แม้ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญาจะเป็นเรื่องที่เราควบคุมไม่ได้ แต่การเตรียมตัวรับมือสามารถช่วยลดความเสียหายได้ การติดตามพยากรณ์อากาศและข้อมูลจากกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นเรื่องสำคัญ รวมถึงการวางแผนใช้น้ำอย่างประหยัดและมีประสิทธิภาพ

สำหรับเกษตรกร ควรพิจารณาปลูกพืชที่ทนแล้งหรือทนน้ำได้มากขึ้น รวมทั้งใช้ระบบชลประทานแบบประหยัดน้ำ เช่น น้ำหยด เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านผลผลิต ส่วนภาครัฐก็มีบทบาทในการจัดการเขื่อน อ่างเก็บน้ำ และโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำเพื่อบรรเทาผลกระทบจากทั้งภัยแล้งและน้ำท่วม

ในระดับบุคคล การดูแลสุขภาพให้แข็งแรง การป้องกันโรคที่มากับฤดูกาล และการเตรียมความพร้อมรับมือเหตุฉุกเฉิน เช่น น้ำท่วมฉับพลัน ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยให้ผ่านช่วงเวลาที่สภาพอากาศไม่แน่นอนได้

โลกยุคปัจจุบันเผชิญการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญาจึงไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญทุกไม่กี่ปี การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับมันอย่างมีข้อมูลและเตรียมความพร้อมจะช่วยให้ผลกระทบลดลง ทั้งต่อชีวิตประจำวัน เศรษฐกิจ และความมั่นคงด้านอาหารและน้ำ

ปี 2025 จึงเป็นอีกบททดสอบของประเทศไทย ที่จะชี้ให้เห็นว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน เกษตรกร และประชาชน จะช่วยกันรับมือความท้าทายจากธรรมชาติได้มากน้อยแค่ไหน

 

ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญาในปี 2025 อาจทำให้ประเทศไทยเผชิญทั้งความร้อนจัด ภัยแล้ง ฝนตกหนัก และน้ำท่วมในปีเดียวกัน การเข้าใจธรรมชาติของปรากฏการณ์เหล่านี้คือก้าวแรกในการเตรียมตัวรับมือ สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้ข้อมูลที่ถูกต้องมาวางแผนทั้งในชีวิตประจำวันและภาคเศรษฐกิจ หากเรารู้จักปรับตัวอย่างชาญฉลาด ผลกระทบที่ดูใหญ่หลวงก็อาจกลายเป็นสิ่งที่เราผ่านไปได้ด้วยความเข้มแข็ง

Back To Top