รอยสักเป็นสิ่งที่หลายคนใช้แสดงความเป็นตัวเอง แต่บางครั้งอาจเปลี่ยนใจหรือต้องการลบออกด้วยเหตุผลส่วนตัว ก่อนลบรอยสักควรพิจารณาเรื่องความเจ็บ ค่าใช้จ่าย และการดูแลผิวหลังทำ เพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วที่สุด บทความนี้จะช่วยแนะนำให้คุณเตรียมตัวให้พร้อมและเข้าใจในขั้นตอนต่างๆ ก่อนเริ่มลบรอยสักอย่างถูกต้อง
1. เลเซอร์ไม่สามารถลบรอยสักได้หมด 100%
แม้ว่าเลเซอร์จะเป็นวิธีที่ได้ผลดีในการลบรอยสัก แต่ส่วนใหญ่แล้วหมึกจะไม่หายไปทั้งหมด บางคนอาจยังคงเห็นเงาจาง ๆ ของรอยสักอยู่ โดยเฉพาะสีที่ลบยากหรือรอยสักที่ฝังลึกมาก ซึ่งการลบให้หมดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น สีหมึก ความลึกของหมึก และสภาพผิวของแต่ละบุคคล
2. เลือกสถานที่ลบรอยสักที่เชื่อถือได้
ควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือและมีผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนัง เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นตามมา เช่น แผลเป็นหรือการติดเชื้อ ควรศึกษาข้อมูลของคลินิกก่อนตัดสินใจลบรอยสัก
3. ผลลัพธ์ที่ได้ขึ้นอยู่กับสีและความลึกของรอยสัก
รอยสักแต่ละสีมีความยากง่ายในการลบที่ต่างกัน หมึกสีดำเป็นหมึกที่ลบได้ง่ายที่สุดเพราะสามารถดูดซับแสงเลเซอร์ได้ดีที่สุด แต่ที่สีฟ้า สีเขียว หรือสีเหลือง ต้องใช้เลเซอร์พิเศษในการลบให้หมด ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับความลึกของหมึกที่ฝังในผิวหนัง ยิ่งหมึกฝังลึกมากเท่าไหร่ ยิ่งต้องใช้เวลามากในการลบ
4. ความเจ็บระหว่างเลเซอร์จะเจ็บมากกว่าความเจ็บตอนสัก
แม้ว่าการสักจะทำให้รู้สึกเจ็บ แต่การลบรอยสักด้วยเลเซอร์นั้นเจ็บกว่ามาก หลายคนที่เคยลบรอยสักให้ความเห็นว่าความเจ็บจากการลบเลเซอร์คล้ายกับตอนที่สัก แต่ต่างกันตรงที่เลเซอร์เป็นการยิงแสงเข้าไปในผิวหนัง ซึ่งทำให้รู้สึกเหมือนถูกยิงด้วยยางหนังสติ๊ก สำหรับผู้ที่มีความไวต่อความเจ็บ แพทย์อาจใช้ยาชาหรือแนะนำให้ใช้วิธีบรรเทาความเจ็บอื่นๆ เพื่อทำให้ขั้นตอนระหว่างการลบรอยสักนั้นสบายขึ้น
5. รอยแผลหลังลบรอยสักต้องใช้เวลาฟื้นตัว
หลังจากการยิงเลเซอร์ลบรอยสัก ผิวจะมีแผลเป็นซึ่งต้องใช้เวลาฟื้นตัว ระหว่างนี้ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดเพราะอาจทำให้เกิดรอยดำบนผิวหรือทำให้แผลหายช้า ควรใช้ครีมที่แพทย์แนะนำในการบำรุงผิวเพื่อช่วยให้ผิวฟื้นฟูเร็วขึ้น อาจต้องหลีกเลี่ยงการอาบน้ำร้อนหรือใช้น้ำเกลือในช่วงแรกเพื่อลดการระคายเคือง
6. ค่าใช้จ่ายในการลบรอยสักจะมากกว่าค่าใช้จ่ายในการสัก
ค่าใช้จ่ายในการลบรอยสักขึ้นอยู่กับขนาดของรอยสักและจำนวนครั้งที่ต้องทำ ขนาดรอยสักที่ใหญ่กว่ามักต้องทำเลเซอร์หลายครั้ง นอกจากนี้ สีที่ยากต่อการลบ เช่น สีฟ้าและสีเขียว อาจต้องใช้เครื่องมือเลเซอร์พิเศษซึ่งเพิ่มค่าใช้จ่ายขึ้นอีก หากจะลบสีทั้งหมดอาจใช้เงินจำนวนมากกว่าที่คิดไว้ตั้งแต่แรก
7. ลบรอยสักไม่สามารถทำได้ทั้งหมดในครั้งเดียว
การลบรอยสักไม่สามารถทำได้ในครั้งเดียว ต้องทำเลเซอร์ซ้ำหลายครั้งเพื่อให้หมึกจางลงอย่างเห็นได้ชัด จำนวนครั้งในการลบอาจอยู่ระหว่าง 5-10 ครั้ง ขึ้นอยู่กับขนาด ความลึก และสีของรอยสัก โดยเว้นระยะห่างระหว่างครั้งประมาณ 1-2 เดือนเพื่อให้ผิวฟื้นตัวก่อนการรักษาครั้งต่อไป
8. ต้องเตรียมตัวก่อนลบรอยสัก
ก่อนลบรอยสัก ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ก่อนทำเลเซอร์ เพราะผิวที่ถูกแสงแดดจะบอบบางกว่าและเสี่ยงต่อการระคายเคืองก่อให้เกิดรอยด่าง ควรงดใช้สารเคมีที่อาจทำให้ผิวเกิดอาการแพ้ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดหรือสารผลัดเซลล์ผิว และหากคุณใช้ยาที่ทำให้ผิวไวต่อแสง เช่น ยารักษาสิวบางชนิด ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าผิวพร้อมสำหรับการลบรอยสัก ป้องกันการระคายเคืองจากเลเซอร์
9. ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลังลบรอยสัก
แม้ว่าการลบรอยสักด้วยเลเซอร์จะเป็นวิธีที่ปลอดภัย แต่ก็ยังมีความเสี่ยงที่ทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น รอยแผลเป็น การระคายเคืองผิวหนัง หรืออาจติดเชื้อได้หากไม่ดูแลแผลอย่างถูกวิธี นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่สีหมึกบางส่วนจะไม่หายไปอย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะสีหมึกที่ลบยาก เช่น สีฟ้า
10. ควรดูแลผิว หลังลบรอยสักด้วยเลเซอร์
หลังจากลบรอยสัก ควรดูแลผิวอย่างถูกวิธี เพื่อให้แผลหายดีและไม่มีรอยแผลเป็น ใช้ครีมบำรุงหรือยาปฏิชีวนะตามที่แพทย์แนะนำ หลีกเลี่ยงการขูดหรือเการอยแผล และควรหลีกเลี่ยงการออกแดดจนกว่าผิวจะฟื้นตัวเต็มที่
การลบรอยสักต้องใช้เวลาและความอดทน ควรเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจเพื่อรับมือกับความเจ็บในการเลเซอร์ เลือกสถานที่ที่น่าเชื่อถือและใส่ใจในการดูแลผิวหลังจากลบรอยสักจะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสมบูรณ์มากขึ้น นอกจากนี้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจทำ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงและให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด